Lot Size หรือ Volume ในการซื้อขายเป็นสิ่งที่นักลงทุนใน ตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงิน (Forex) จำเป็นจะต้องรู้จัก และต้องทำการศึกษาให้เข้าใจ เนื่องจากขนาดของ Lot Size นั้น จะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณ กำไร/ขาดทุน ในแต่ละคำสั่งซื้อขาย หาก Lot Size มีขนาดใหญ่ จะส่งผลให้ กำไร/ขาดทุน เยอะขึ้นตาม

     การศึกษาขนาดของ Lot Size จึงเป็นการศึกษาเพื่อบริหาร หรือลดความเสี่ยงจากความไม่รู้ในการลงทุน รวมถึงการ Overtrade ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนในตลาด Forex โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ เสี่ยงกับการขาดทุนจนล้างพอร์ทอีกด้วย

Lot size คือ ?

     Lot Size หรือ Volume คือขนาดของการซื้อขายแต่ละคำสั่ง เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงทุกครั้งๆที่มีการส่งคำสั่งซื้อขาย พอๆกับการเลือกว่าจะทำการ Buy (Long) หรือ Sell (Short)  ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องทราบก่อนว่า 1 Lot size ของบัญชีที่ผู้ลงทุนใช้อยู่ เป็น Lot Size ประเภทใด เทียบเท่ากับการลงทุนกี่หน่วยของเงินสกุลหลักที่ซื้อขาย

ประเภทของ Lot Size มีดังนี้

  • 1 Standard Lot เทียบเท่า 100,000 หน่วยของเงินสกุลหลัก 
  • 1 Mini Lot เทียบเท่า 10,000 หน่วยของเงินสกุลหลัก 
  • 1 Micro Lot เทียบเท่า 1,000 หน่วยของเงินสกุลหลัก 
  • 1 Nano Lot เทียบเท่า 100 หน่วยของเงินสกุลหลัก 

จึงสรุปได้ว่า :: 1 Standard Lot = 10 Mini Lot = 100 Micro Lot = 1,000 Lot

ควรใช้ Lot Size ประเภทใด ?

     ในการซื้อขายนั้นจริงนั้น ไม่มี Lot Size ประเภทใดที่ดีไปกว่ากัน นอกจากนี้แม้จะเป็นบัญชีประเภท Standard Lot เหมือนกัน แต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆที่แตกต่างกันไป ตามแต่ละบัญชีของแต่ละโบรคเกอร์ Forex อีกด้วย เช่น

  • Leverage
  • Spread หรือ ค่าบริการ
  • ขั้นต่ำในการฝากเงินถอน
  • คู่เงิน หรือ ผลิตภัณฑ์ ที่สามารถซื้อขายได้
  • จำนวน Lot สูงสุด ต่อ 1 คำสั่งซื้อขาย
  • จำนวน Pending Order ที่สามารถตั้งรอได้
  • เงื่อนไขอื่นๆ เช่น โปรโมชั่นที่สามารถใช้ร่วมได้ หรือ Commission เป็นต้น

ข้อควรทราบ :: โบรคเกอร์ยังสามารถมีบัญชี Standard Lot มากก่า 1 ประเภทด้วย

ควรซื้อขายขนาด Lot เท่าไหร่ดี ?

     โดยทั่วไปแล้วขนาดของ Lot ในการซื้อขายแต่ละคำสั่ง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงบประมาณ (Budget) ในการลงทุน แต่ไม่จำเป็นว่า หากมีเงินลงทุนเท่ากัน ควรจะลงทุนด้วยขนาด Lot เท่ากัน เนื่องจากผู้ลงทุนแต่ละรายมีปัจจัยการลงทุนที่ต่างกัน ซึ่งจำแนกได้หลักๆดังนี้

  • ความสามารถในการรับความเสี่ยง (Ability to take risks) ยิ่งสามารถรับความเสี่ยงได้สูง ผู้ลงทุนมักซื้อขายด้วยขนาด Lot ที่ใหญ่กว่าผู้รับความเสี่ยงได้ต่ำ
  • เป้าหมายในการเทรด (Trading goals) หากต้องการกำไรสูงๆในเวลาอันสั้น ก็ต้องซื้อขายด้วยขนาดของ Lot ที่สูงตาม
  • กลยุทธในการเทรด (Trading strategies) การเทรดสั้นๆมักจะมีแนวโน้มขนาด Lot ที่สูง แต่ก็ไม่เสมอไป
  • ประสบการณ์ในการเทรด (Trading experience) มีคำกล่าวว่า เราจะสามารถหาเงินได้เท่าที่เราจะมีความสามาถ นักลงทุนที่มีประสบการณ์ จึงอาจใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ, กลุยทธการเทรด รวมทั้งมีแนวโน้มว่าจะตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

บทส่งท้าย

     การคำนวนขนาด Lot ในการซื้อขายนั้น จำเป็นต้องพิจาณาถึงทุกๆปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นความสามารถในการรับความเสี่ยง (Ability to take risks) เนื่องจากขนาดของ Lot หรือ Lot Size นั้น จะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณ กำไร/ขาดทุนตามที่กล่าวไปในช่วงต้นของบทความ ดังนั้นเมื่อนักลงทุนมีประสบการณ์มากพอ จะสามารถประมาณขนาดของ Lot ที่จะใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขายภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสมได้ในที่สุด