Top Down & Bottom Up เป็นพื้นฐานการวิเคราะห์เชิงปัจจัยพื้นฐานของ หลักทรัพย์ (Stock) รวมทั้ง สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการวิเคราะห์แบบ Top Downและ Bottom Up จะใช้หลักการคล้ายกัน แต่จะต่างกันในส่วนของทิศทางการวิเคราะห์
การวิเคราะห์ในลักษณะ Top Down & Bottom Up ยังช่วยให้ผู้วิเคราะห์มีความเข้าใจสภาพการณ์ทั่วโลก เนื่องจากจะต้องศึกษาทั้งปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง หรือความเสี่ยงต่างๆก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในการวิเคราะห์ จึงทำให้การวิเคราะห์ในรูปแบบ Top Down & Bottom Up เหมาะในการปูพื้นฐานสำหรับศึกษาเรื่องการลงทุนที่เริ่มต้นลงทุน หรือสนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาด เรามาเริ่มทำความรู้จักการวิเคราะห์ทั้ง 2 แบบกันเลย
- Top Down เป็นการวิเคราะห์จากภาพใหญ่ แล้วจึงไล่ลงมาในสเกลที่เล็กลงตามลำดับ ดังเช่นตัวอย่างนี้
- ภาพใหญ่สุด :: ภาพรวมทั่วโลก ในปัจจุบันเป็นอย่างไร มีแนวโน้มอย่างในอนาคตบ้าง
- ภาพรองลงมา :: อุตสหกรรมใด ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และน่าสนใจเข้าไปลงทุน
- ภาพเล็กสุด :: บริษัทใดในอุตสาหกรรมนั้นๆ มีความน่าสนใจมากที่สุดโดยเปรียบเทียบ
- Bottom Up เป็นการวิเคราะห์จากภาพเล็ก แล้วจึงไล่ขึ้นไปสเกลที่ใหญ่กว่าตามลำดับ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สวนทางกับแบบ Top Down แต่มักจะใช้ในการวิเคราะห์แบบเฉพาะเจาะจง เช่น ในกรณีที่สนใจลงทุนบริษัทใดเป็นพิเศษ หรือ มีปัจจัยเข้ามากระทบทำให้มีโอกาสเข้าไปทำกำไรในระยะสั้นได้